Saudi Arabia shut down half its oil production Saturday after a series of drone strikes hit the world’s largest oil processing facility in an attack claimed by Yemen’s Houthi rebels.
The closure will impact almost 5.7 million barrels of crude production a day, about 5% of the world’s daily oil production, according to Saudi Aramco. In August, Saudi Arabia produced 9.85 million barrels per day, according to the latest figures from the U.S. Energy Information Administration.
Saudi Energy Minister Abdulaziz bin Salman said the attacks also led to a halt in gas production that will reduce the supply of ethane and natural gas liquids by 50%.
Saudi Aramco President and CEO Amin Nasser said nobody was hurt in the attacks and emergency crews have contained the fires and brought the situation under control.
“Work is underway to restore production and a progress update will be provided in around 48 hours,” Nasser said.
Early Saturday, the Khurais oilfield operated by Saudi Aramco, the state-owned oil giant, and theAbqaiq oil processing facility were attacked by a number of drones. The facility at Abqaiq is crucial for global energy supplies.close dialogWhat’s your Smart Money IQ?Test your knowledge and skills.Go
Yemen’s Houthi rebels claimed responsibility for the attack, saying it was one of their largest attacks ever inside the kingdom.
“We promise the Saudi regime that our future operations will expand and be more painful as long as its aggression and siege continue,” a Houthi spokesman said. The attack deployed 10 drones, the Houthis said.
But U.S. Secretary of State Mike Pompeo blamed Iran for the attacks.
“Tehran is behind nearly 100 attacks on Saudi Arabia while Rouhani and Zarif pretend to engage in diplomacy,” Pompeo wrote on Twitter. “Amid all the calls for de-escalation, Iran has now launched an unprecedented attack on the world’s energy supply. There is no evidence the attacks came from Yemen.”
The White House said President Donald Trump spoke with Crown Prince Mohammad bin Salman to offer U.S. support for Saudi Arabia’s defense.
“Violent actions against civilian areas and infrastructure vital to the global economy only deepen conflict and mistrust. The United States Government is monitoring the situation and remains committed to ensuring global oil markets are stable and well supplied,” the White House said.
The Saudi interior ministry said investigations into the terrorist attack are ongoing.
Saudi Energy Minister Salman said the kingdom will compensate part of the production to its customers from its reserves.
“This is a big deal,” said Andrew Lipow, president of Lipow Oil Associates. “Fearing the worst, I expect that the market will open up $5 to $10 per barrel on Sunday evening. This is 12 to 25 cents per gallon for gasoline.”
Lipow noted over four million barrels per day of Saudi oil exports go to Asia, while the U.S. imports about 600,000 barrels. The biggest importers in Asia are China at 1.3 million barrels and Japan at 1.2 million barrels.
The International Energy Agency said Saturday it is “closely monitoring” the situation following the drone attacks, adding markets are “well supplied with ample commercial stocks.”
The Houthis have been behind a series of attacks on Saudi pipelines, tankers and other infrastructure in the past few years as tensions rise among Iran and the U.S. and its partners like Saudi Arabia.
The Islamic Republic, a target of U.S. sanctions for decades, has recently attacked oil tankers in the Strait of Hormuz, shot down a U.S. military drone and announced plans to execute 17 suspected U.S. spies.
The latest attack came as Saudi Arabia moves forward to take Saudi Aramco public in a major shakeup of the kingdom’s energy sector. The world’s most profitable oil company is expected to be valued at more than $1.5 trillion, CNBC previously reported. Crown Prince Salman has pushed for a valuation of as much as $2 trillion.
—CNBC’s Ted Kemp contributed to this report.
19/11/2562
กรุงเทพฯ – ประเทศไทย : บริษัท เชลล์แห่งประเทศไทย จำกัด จัดแคมเปญแจกยิ่งใหญ่ส่งท้ายปี ตอกย้ำความสำเร็จและความน่าเชื่อถือ พร้อมคืนกำไรให้แก่ลูกค้า ด้วยแคมเปญ “เชลล์ซูเปอร์โปร ชอบรถเลือกรถ ชอบทองลุ้นทอง” แจกทั้งรถและทองคำมูลค่ารวมทั้งหมดกว่า 10 ล้านบาท ให้ลูกค้าที่ใช้บริการทุกบริการในสถานีบริการน้ำมันเชลล์ทั่วประเทศได้มีโอกาสลุ้นของรางวัลมากมาย พร้อมรางวัลพิเศษสำหรับสมาชิกเชลล์ คลับสมาร์ท ตั้งแต่วันที่ 15 พฤศจิกายน 2561 ถึงวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2562
นางสาวอรอุทัย ณ เชียงใหม่ กรรมการบริหาร ธุรกิจการตลาดค้าปลีก ประจำประเทศไทย กล่าวว่า “ด้วยความเข้าใจลูกค้าเป็นอย่างดีว่ามีความต้องการที่แตกต่างกัน แคมเปญ “เชลล์ซูเปอร์โปร ชอบรถเลือกรถ ชอบทองลุ้นทอง” จึงเป็นแคมเปญสุดพิเศษที่ลูกค้าได้มีโอกาสเลือกลุ้นในสิ่งที่ตัวเองต้องการ แคมเปญนี้ถือเป็นครั้งที่ 3 ที่เชลล์ให้ลูกค้าสามารถเลือกของรางวัลได้ด้วยตัวเองหลังจากได้รับการตอบรับอย่างล้นหลามจาก 2 ครั้งที่ผ่านมา ยิ่งพิเศษไปกว่านั้นคือครั้งนี้ลูกค้าเชลล์ยังสามารถลุ้นรับของรางวัลได้เต็มๆ 3 รางวัล ไม่ว่าจะเป็นรถยนต์ 6 คัน ทองคำมูลค่ากว่า 1 ล้านบาท และ รถยนต์โตโยต้า CH-R สำหรับสมาชิกเชลล์ คลับสมาร์ท จากทุกการใช้บริการในสถานีบริการน้ำมันเชลล์ ไม่ว่าจะเป็นการเติมน้ำมัน การเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง การจับจ่ายที่ร้านสะดวกซื้อซีเล็ค และ ร้านกาแฟ เดลี่คาเฟ่ เพื่อเป็นการมอบความสุขและสร้างรอยยิ้มให้แก่ลูกค้า ตามแนวทางการดำเนินของเชลล์ในการ เติมสุขให้ทุกชีวิต หรือ Making’s Life Journey Better”
ลูกค้ารถยนต์ทั่วประเทศสามารถลุ้นรับรางวัลรถยนต์ที่คุณเลือกเองได้ จากจำนวน 6 คัน 6 ยี่ห้อ ไม่ว่าจะเป็น Ford Ranger รุ่น Double Cab 2.0L Bi-Turbo Wildtrak 4x4 10AT, Toyota REVO D-CAB รุ่น 2.8G 4WD AT ROCCO, Mitsubishi Pajero Sport รุ่น GT 8AT 2WD, Mazda CX-5 รุ่น 2.0 S, Nissan Teana รุ่น 2.0XL MR 20 DE และ Honda Accord รุ่น 2.0 E เมื่อ
ลูกค้าร้านสะดวกซื้อซีเล็ค ร้านกาแฟ เดลี่คาเฟ่ และ รถจักรยานยนต์ เลือกลุ้นรับรางวัล ทองคำ มูลค่า 1 ล้านบาท 1 รางวัล เพียง
ลุ้นได้มากยิ่งขึ้น
แคมเปญ “เชลล์ซูเปอร์โปร ชอบรถเลือกรถ ชอบทองลุ้นทอง” ให้ลูกค้าได้ลุ้นของรางวัลมากมายได้ตั้งแต่วันที่ 15 พฤศจิกายน 2561 ถึงวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2562 โดยจะจับฉลากของรางวัลในวันที่ 29 มีนาคม 2562 และ ประกาศรายชื่อผู้โชคดีในวันที่ 5 เมษายน 2562 ผ่านทางเว็บไซต์ www.shell.co.th Shell Line Official Account และติดประกาศบริเวณ บริษัท เชลล์แห่งประเทศไทยจำกัด สำหรับกติกาการร่วมกิจกรรมและรายละเอียดเพิ่มเติม สามารถติดตามได้ที่สื่อประชาสัมพันธ์บริเวณสถานีบริการเชลล์ที่ร่วมรายการ และ เว็บไซต์ www.shell.co.th
07/02/2562
กรุงเทพฯ ประเทศไทย - บริษัท เชลล์แห่งประเทศไทย จำกัด เดินหน้าส่งมอบ “พลังงานสะอาด เพิ่มประสิทธิภาพ และดีต่อสิ่งแวดล้อม” โดยความร่วมมือกับทุกภาคส่วน โดยเมื่อวันที่ 25 มกราคมที่ผ่านมา นายอัษฎา หะรินสุต (ที่ 6 จากซ้าย) ประธานกรรมการ บริษัท เชลล์แห่งประเทศไทย จำกัด นำคณะให้การต้อนรับผู้บริหารจากกรมธุรกิจพลังงาน นำโดยนางสาวนันธิกา ทังสุพานิช (ที่ 6 จากขวา) อธิบดีกรมธุรกิจพลังงาน ในโอกาสเข้าเยี่ยมชมการดำเนินงานของคลังน้ำมันเชลล์ ช่องนนทรี
นายอัษฎา หะรินสุต ประธานกรรมการ บริษัท เชลล์แห่งประเทศไทย จำกัด กล่าวว่า “เชลล์มุ่งมั่นส่งมอบพลังงานเพื่อสนับสนุนการเติบโตทางเศรษฐกิจ และความก้าวหน้าทางสังคม ตลอดจนดูแลสิ่งแวดล้อม ของประเทศไทย โดยร่วมมือกับทุกภาคส่วนและตอบรับนโยบายของภาครัฐ ตลอดระยะเวลากว่า 90 ปีที่คลังน้ำมันเชลล์ ช่องนนทรี ได้ก่อตั้งขึ้นเพื่อให้ประเทศไทยมีพลังงานที่เหมาะสมกับสภาวการณ์และทรัพยากรของประเทศ เราได้เน้นดำเนินธุรกิจด้วยเจตนารมณ์ในการเติมสุขให้ทุกชีวิต ด้วยนวัตกรรม ความร่วมมือ และการพัฒนาบุคลากร”
ในโอกาสนี้ คณะผู้บริหารจากกรมธุรกิจพลังงานได้เข้าเยี่ยมเยียนชาวชุมชนวัดคลองเตยใน ซึ่งตั้งอยู่ใกล้เคียง และได้รับทราบถึงการปฏิบัติงานที่เป็นเลิศ รวมถึงระบบการจัดการด้านสุขภาพ ความปลอดภัย ความมั่นคง และสิ่งแวดล้อมมาตรฐานระดับโลกของเชลล์ ทั้งนี้ เชลล์เป็นบริษัทแรกในประเทศไทยที่ได้รับมาตรฐาน ISO 45001:2018 จากสถาบันรับรองมาตรฐานไอเอสโอ คลังน้ำมันเชลล์ ช่องนนทรีถือเป็นส่วนสำคัญในระบบโครงสร้างพลังงานที่รองรับการส่งจ่ายน้ำมันเชื้อเพลิงเพื่อตอบสนองความต้องการของทั้งภาคครัวเรือนและภาคธุรกิจ เป็นศูนย์กลางการผลิตและส่งออกน้ำมันหล่อลื่นและยางมะตอยในไทยรวมถึงภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ตลอดจนมีศักยภาพในการรองรับการขนถ่ายน้ำมันทางเรือและทางระบบท่อส่ง
อ่านต่อได้ที่:
https://www.shell.co.th/th_th/media/media-2019/shell-thailand-drives-more-and-cleaner-energy.html
บริษัท เชลล์แห่งประเทศไทย จำกัด นำโดย นางสาวอรอุทัย ณ เชียงใหม่ (ขวา) กรรมการบริหาร ธุรกิจการตลาดค้าปลีก และ นายกมล คงสกุลวัฒนสุข (ซ้าย) รองกรรมการบริหาร ธุรกิจการตลาดค้าปลีก ส่งแคมเปญใหม่ล่าสุด “เชลล์ วี-เพาเวอร์ พลังที่เปลี่ยนทุกความรู้สึก” ตอกย้ำความเป็นผู้นำนวัตกรรมพลังงานเชื้อเพลิงและน้ำมันเกรดพรีเมี่ยม รุกขยายฐานลูกค้าใหม่ด้วยกลยุทธ์การสื่อสารกับผู้บริโภคแบบ 360 องศา พร้อมเดินหน้าจับมือพันธมิตรชั้นนำ
กรุงเทพฯ – ประเทศไทย 13 มีนาคม 2562: บริษัท เชลล์แห่งประเทศไทย จำกัด ส่งแคมเปญใหม่ล่าสุด “เชลล์ วี-เพาเวอร์ พลังที่เปลี่ยนทุกความรู้สึก” ตอกย้ำความเป็นผู้นำนวัตกรรมพลังงานเชื้อเพลิงและน้ำมันเกรดพรีเมี่ยม รุกขยายฐานลูกค้าใหม่ ด้วยกลยุทธ์การสื่อสารกับผู้บริโภคแบบ 360 องศาผ่านช่องทาง ทั้งสื่อออนไลน์และออฟไลน์ พร้อมเดินหน้าจับมือพันธมิตรชั้นนำมุ่งตอบสนองทุกความต้องการของผู้บริโภค ตามแนวคิด “เชลล์เติมสุขให้ทุกชีวิต” หรือ “Making Life’s Journey Better”
นางสาวอรอุทัย ณ เชียงใหม่ กรรมการบริหาร ธุรกิจการตลาดค้าปลีก บริษัท เชลล์แห่งประเทศไทย จำกัด เผยว่า “ในฐานะผู้นำด้านเทคโนโลยีน้ำมันเชื้อเพลิงระดับโลก กลยุทธ์หลักของเชลล์คือการส่งมอบ ‘พลังงานสะอาด เพิ่มประสิทธิภาพ และดีต่อสิ่งแวดล้อม’ ควบคู่ไปกับการพัฒนานวัตกรรม ผสานกำลังเครือข่ายพันธมิตร และ พัฒนาบุคลากร โดยเชลล์เป็นบริษัทน้ำมันรายแรกที่ปฏิวัติวงการด้วยการนำเสนอน้ำมันเกรดพรีเมี่ยมทั้งดีเซลและแก๊สโซฮอล์ 95 สู่ผู้ขับขี่ชาวไทย การันตีคุณภาพล่าสุดด้วยรางวัลธุรกิจยานยนต์ยอดนิยม ด้านผลิตภัณฑ์เกี่ยวเนื่องกับรถยนต์ ประเภทน้ำมันเชื้อเพลิง หรือ Thailand Automotive Quality Award (TAQA) 2018”
“ในปี พ.ศ. 2562 เชลล์ได้เตรียมกิจกรรมทางการตลาดสำหรับน้ำมันเชลล์ วี- เพาเวอร์ไว้มากมายเริ่มจากแคมเปญใหม่ “เชลล์ วี-เพาเวอร์ พลังที่เปลี่ยนทุกความรู้สึก” ที่นอกจากผู้ขับขี่จะได้รับแผ่นหอมปรับอากาศ “Happy Feel” ที่มอบความสดชื่นตลอดเส้นทาง พร้อมส่วนลดการใช้บริการต่างๆ ในสถานีบริการน้ำมันเชลล์ ตอกย้ำความมุ่งมั่นในการเป็น“สถานีเติมสุข” อย่างแท้จริงแล้ว เชลล์ยังได้ทุ่มงบเปิดตัวโฆษณาใหม่ของน้ำมันเชลล์ วี-เพาเวอร์ เพื่อสื่อสารกับผู้บริโภคแบบ 360 องศา ทั้งช่องทางออนไลน์และออฟไลน์เพื่อขยายฐานลูกค้าใหม่”
น้ำมันเชลล์ วี-เพาเวอร์ที่มาพร้อมกับเทคโนโลยี ไดนาเฟล็กซ์ มีส่วนประกอบใกล้เคียงกับน้ำมันที่ใช้ในการแข่งรถสูตรหนึ่งของทีมสคูเดอเรีย เฟอร์รารี่ ถึง 99% โดย น้ำมันเชลล์ วี-เพาเวอร์ แก๊สโซฮอล์ 95 มีสารช่วยลดแรงเสียดทานและสารทำความสะอาด มากกว่าน้ำมันเชลล์ ฟิวเซฟ ถึง 3 เท่า ในขณะที่น้ำมันเชลล์ วี-เพาเวอร์ ดีเซล ช่วยกำจัดคราบตะกรันที่หัวฉีด ให้เครื่องยนต์ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ การเผาไหม้สมบูรณ์ คืนพลังให้เครื่องยนต์ทั้งรถเก่าและรถใหม่ และช่วยลดเขม่าไอเสีย
อ่านเพิ่มเติมที่: https://www.shell.co.th/th_th/media/media-2019/the-power-that-changes-every-feeling.html